ที่เที่ยวจังหวัดนนทบุรี

ท่องเที่ยวภาคกลางเรื่องฮิต No comments

วัดปราสาท

 

 

สมัยอยุธยาตอนปลาย สร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช หน้าบันพระอุโบสถเป็นไม้สักสลักรูปนารายณ์ทรงครุฑ (ปัจจุบันตัวครุฑถูกขโมยไปแล้ว) เครื่องบนเป็นไม้สักประดับด้วยรวยมอญ (ตัวไม้แกะสลักที่ทอดตัวลงมาบนหัวแปตอนหน้าจั่ว เป็นศิลปะมอญ) ตรงหุ่นนก (สามเหลี่ยม ข้างรวยมอญ) เป็นรูปราชสีห์และคชสีห์ ลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นโบสถ์แบบมหาอุดไม่มีการเจาะฝาผนังเลย ฐานพระอุโบสถเป็นแบบตกท้องช้างหรือท้องสำเภา (การสร้างโบสถ์แบบตกท้องช้างนั้น สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลทางสถาปัตยกรรม คือเมื่ออากาศร้อน ความร้อนจะลอยตัวขึ้นสูงอากาศเย็นจะพัดเข้าแทนที่ได้สะดวก) ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานและพระสาวก มีภาพจิตรกรรมเขียนขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายโดย ฝีมือของสกุลช่างชั้นสูงนนทบุรี เรียกว่าทศชาติชาดก นับว่าเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เก่าแก่ที่สุดของจังหวัดนนทบุรี ถือว่าวัดนี้เป็นวัดหนึ่ง ที่ดำเนินการอนุรักษ์โบสถ์ และศิลปกรรมได้อย่างถูกวิธี จึงทำให้เป็นแหล่งวิทยาการที่น่าสนใจยิ่งของทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ บนศาลาการเปรียญยังมีธรรมาสน์ที่มีอายุเก่าแก่พอกับโบสถ์ ประดับลวดลายตกแต่งอย่างสวยงาม วัดนี้จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดที่มีการอนุรักษ์ศิลปกรรมได้อย่างถูกต้อง เป็นที่เชิดหน้าชูตาการเดินทาง รถยนต์ วัดนี้ตั้งอยู่ริมถนนบางกรวย-ไทรน้อย จากสะพานพระนั่งเกล้า ตรงไปสี่แยกไฟแดงที่ 2 เลี้ยวซ้ายเข้าบางกรวย ผ่านวัดสวนแก้ว ตรงไปทางเส้นบางกรวย-ไทรน้อย จะเห็นป้ายบอกทางไปวัด หรือ จากท่าน้ำนนท์นั่งเรือข้ามฟากมา โดยสารรถสองแถวสายบางใหญ่-ท่าน้ำ คิวรถอยู่ใกล้กับวัดเฉลิมพระเกียรติ เรือ ต้องเดินจากท่าเรือผ่านสวน ของชาวบ้านเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร

 

วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร

ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตตำบลสวนใหญ่ ห่างจากตัวเมืองมาทางด้านใต้ประมาณ 2 กิโลเมตร ด้านหน้าของวัดติดริมฝั่งแม่น้ำ ส่วนด้านหลังติดถนนพิบูลสงคราม มีพื้นที่ประมาณ 26 ไร่เศษ เป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดราชวรวิหาร สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นเรียกว่า “วัดเขมา” ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์เป็นวัดที่อยู่ในสังกัดบัญชีกฐินหลวงของกรมพระราชวังบวรฯ ในสมัยรัชกาลที่ 2 สมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ พระบรมราชินี ทรงขอวัดนี้มาอยู่ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และทรงปฏิสังขรณ์ใหม่เรียกว่า วัดเขมา ยังไม่มีสร้อยต่อท้ายต่อมาสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งพระอาราม และพระราชทานสร้อยนามต่อท้ายว่า “วัดเขมาภิรตาราม” ปี พ.ศ. 2525 พระราชวงศ์จักรีมีอายุ 200 ปี มีพิธีสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ คณะกรรมการวัด มีความเห็นว่าวัดนี้มีความสำคัญกับราชวงศ์จักรี พระบรมวงศานุวงศ์ทรงให้ความอุปถัมภ์บำรุงมาตลอด จึงมีมติสร้างศาลาอเนกประสงค์ชื่อศาลา 200 ปีกรุงรัตนโกสินทร์

 

วัดชลประทานรังสฤษดิ์

 

ตั้งอยู่ที่ตำบลบางตลาด ริมถนนสายนนทบุรี- ห้าแยกปากเกร็ด ภายในวัดกว้างขวางร่มรื่น เป็นสถานที่เผยแพร่และศึกษาพระธรรม มีลานไผ่เอนกประสงค์ที่ชาวพุทธโดยทั่วไปจะมารวมกันเป็นจำนวนมากเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และฟังธรรมจากพระเทพวิสุทธิเมธี (ปัญญานันทภิกขุ) เจ้าอาวาสทุกวันอาทิตย์และวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

Leave a reply

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong>

eXTReMe Tracker